จากตารางด้านบนจะเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างค่า PR และ จำนวนของ Backlink น่ะครับ ทั้งหมดเป็นตัวเลขที่ประมาณการไว้น่ะครับ ไม่ใช่ข้อมูลที่แน่นอน เพราะ Google มี Algorithm ที่ซับซ้อนเยอะแยะไปหมดครับ ยากที่จะเข้าใจ ^^ เราลองมาดูวิธีการใช้งานตารางตัวนี้กันน่ะครับ เริ่มแรกดูทางฝั่งแนวตั้งซ้ายมือครับ จะเป็นค่า PR ที่เราต้องการจะได้มีตั้งแต่ PR2 - PR10 ครับ ส่วนทางฝั่งแนวนอนด้านบนจะเป็นค่า PR และจำนวน Backlink ที่เราต้องหาครับ สมมุติว่าเราต้องการจะให้เว็บไซต์เราได้ค่า PR5 เราต้องหา Backlink ที่มี PR1 ถึง 16,803 ลิงค์เลยทีเดียว แต่ถ้าเกิดว่าเราได้ Backlink ที่มีค่า PR5 ก็แค่เพียง 18 ลิงค์เท่านั้น ครับ
Category Archives: Google
Googleความสัมพันธ์ระหว่าง PR และ Backlink
มารู้จัก Google caffeine กัน
Google กำลังจะเปลี่ยนแปลงระบบ Search Engine ใหม่น่ะครับ โดยจะมีการนำเอา Algorithm ใหม่ที่มีชื่อว่า Google Caffeine เข้ามาใช้ครับ เจ้า Algorithm นี้ทาง Google ได้มีการพัฒนามาได้สักระยะแล้ว ซึ่งความสามารถของมันก็คือสามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าครับ อีกทั้งยังลดความซ้ำซ้อนของผลการค้นหาอีกด้วย โดยหนึ่งในผู้ที่ทดสอบเจ้า Algorithm Caffeine ได้บอกไว้ว่า Google Caffeine สามารถแสดงผลการค้นหาของเขาได้ถึง 7,130 เป้าหมาย เปรียบเทียบกับเสิรจเอนจิ้นดั้งเดิมที่ทำได้เพียง 803 เป้าหมายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดว่า Google จะนำ Algorithm ที่ชื่อว่า Caffeine มาใช้เมื่อไหร่ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงก็คงจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยการพัฒนาจะพิจารณาจากผลการตอบรับของตัวผู้ใช้งาน Search Engine เป็นหลัก
Google Sandbox Effect คืออะไร
Sandbox เป็นส่วนนึงในการจัดอันดับหน้าเว็บไซต์ของ Google โดยเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นใหม่จะมีโอกาสติด Sandbox ก็คือจะไม่ได้รับการจัดอันดับใน Google เป็นระยะเวลาหนึ่งๆ หลังจากหลุดพ้นจากเจ้า Sandbox เว็บไซต์นั้นก็จะติดอันดับใน Google ตามปกติครับ ที่ Google ต้องมี Sandbox ก็เพราะว่าช่วยป้องกันเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆไม่ให้ติดอันดับจนเร็วเกินไป ซึ่งปกติเว็บไซต์ที่ติด Sandbox จะติดอยู่ประมาณ 90 - 120 วันเป็นอย่างน้อยครับ มีการแนะนำกันว่าการหา Backlink ให้เว็บไซต์เราเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นการ Submit เว็บกับ Directory การแลกลิงค์ ก็ตามจะสามารถช่วยให้เว็บเราหลุดพ้นจากเจ้า Sandbox ได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวิธีนี้ไม่มีใครรับรองได้อย่างแน่นอนว่าจะทำให้เกิดการหลุดจาก Sandbox ได้เร็วขึ้น แต่การหา Backlink เอาไว้ก็เป็นผลดีเพราะเมื่อหลุดจาก Sandbox เว็บไซต์เราก็จะได้มีอันดับที่ดีๆครับ ยังมีข้อสงสัยที่ตามมานั่นก็คือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราหลุดจาก Sandbox แล้ว สังเกตุง่ายๆครับ เมื่อเราหลุดจาก Sandbox เว็บเราจะติดอยู่ใน Google ครับ สามารถเช็คได้โดยพิมพ์ site:ชื่อเว็บไซต์ของคุณ.com ในช่อง Search ครับ ถ้ามีเว็บไซต์ของคุณก็คือ หลุดจาก Sandbox เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ นอกจากนั้นสามารถสังเกตุจากค่า pr (Pagerank) ร่วมด้วยก็ได้ครับ
การจัดอันดับของ Google
Google นั้นเป็น Search Engine ที่คนไทยและคนทั่วโลกให้ความนิยม หากเราเป็นเว็บมาสเตอร์ การทำให้เว็บไซต์ของเราติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของ Google นั้น จะช่วยให้เว็บของเราเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว ในการศึกษาการจัดอันดับของ Google นั้น ไม่มีใครรู้ได้ชัดเจนว่าเป็นเช่นไร เพียงแต่เราสามารถรู้ในบางส่วนที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับ
1. On Page Factor คือ ทุกอย่างที่เราสามารถเห็นข้อมูลได้จากหน้าเว็บเรา เช่น Title Tag Keyword ซึ่งในการทำเว็บเราก็ไม่ควรจะทำ Spam Keyword หรือใช้คำซ้ำซ้อน ควรจะมีการกระจาย Keyword ดีกว่า และ Keyword ที่ใช้ก็ควรจะสัมพันธ์กับตัวเนื้อหาในเว็บครับ ไม่ใช่ทำเว็บเกี่ยวกับรถยนต์ แต่ใส่ Keyword เกี่ยวกับเพลง หนัง คอมพิวเตอร์ ฯลฯ แบบนี้เป็นการ Spam ครับ ส่วนในกรณี Link ก็เช่นกันครับ หากเราทำ Link ชื่อว่า เพลง เมื่อคลิกผ่าน Link เข้าไปก็ต้องเป็นหน้าเว็บที่เกี่ยวกับเพลงครับ
2. Off Page Factor คือ ทุกอย่างที่ Search Engine สามารถมองเห็นและเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ของเราไปได้ครับ เช่น Link Sitemap ในส่วนนี้เราควรที่จะหา Link เข้าเว็บไซต์เราให้มากๆครับ และควรจะคัดคุณภาพเว็บด้วยครับ เพื่อเพิ่ม Backlink ของเว็บเราครับ ทำได้โดยการ Submit Web Directory และ Social Bookmark หรือทำการแลกลิงค์โดยตรงกับเว็บเพื่อนบ้าน ที่สำคัญเราควรจะทำการตรวจสอบเว็บที่ Link เข้ามาหาเราสม่ำเสมอด้วยครับ เพราะว่าบางเว็บไซต์อาจจะมีการใส่ URL ของเราผิดพลาด ซึ่งทำให้ Link ที่เข้ามาในเว็บเราเกิด HTTP 404 คือการฟ้องว่าไม่มีหน้าเว็บนั้นๆครับ แบบนี้จะทำให้เราไม่ได้ Backlink น่ะครับ
3. Hosting คือ Server ที่เรามีข้อมูลเว็บไซต์เราอยู่ครับ ซึ่งหาก Hosting มีความเร็วย่อมมีผลต่อการที่ Bot เข้ามาเก็บข้อมูล นอกจากนั้นหาก Hosting ของเราเสียเป็นประจำย่อมส่งผลเสียแน่นอนครับ เพราะเมื่อ Bot เข้ามาก็ไม่สามารถเก็บข้อมูลไปได้ หากมองในมุมมองของผู้เข้าชมเว็บไซต์ก็คงไม่ปลื้มที่เปิดเว็บแล้วช้าอืดอาด หรือเปิดเว็บไม่ได้เลย